กระเป๋า ถือเป็นสิ่งหนึ่ง ที่สร้างรายได้มหาศาล เพราะว่าสามารถบ่งบอกถือยี่ห้อ ได้มากกว่าเสื้อผ้าที่เรากำลังใส่อยู่ กระเป๋าคุณภาพดีแต่ละใบ ต้องใช้วัสดุชั้นเลิศและการตัดเย็บที่ประณีตมากครับ รวมถึงอัตราการผลิตที่ทำได้จำนวนน้อย ไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ทำให้กระเป๋าบางรุ่น ต้องมีราคาที่สูงมาก เมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิต การที่เราจะยอมจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อแลกมากับกระเป๋าใบโปรด กระเป๋ายี่ห้อดังๆ ก็มักจะเอาโลโก้ของแบรนมาเป็นจุดขาย ในการเรียกร้องความสนใจของลูกค้า มีอยู่แบรนนึง ที่ผมเองหลงรักมานาน นั่นคือ กระเป๋าของบอนติก้า เวนเนต้า ด้วยความเรียบง่ายของกระเป๋า คุณภาพของหนังที่ดีเลิศ และการผลิตที่ล้วนแต่เป็นงานฝีมือชั้นสูง กระเป๋าบอนติก้าแต่ละใบ มักจะเป็นกระเป๋าสาน ที่ทำมาจากหนังแนบป้า ที่มีความเบาและทนทานมาก ยิ่งใช้ก็ยิ่งสวย เป็นกระเป๋าเบรนเนมอีกใบที่ไม่มีโลโก้หรืออะไรประดับตกแต่งมากมาย มีเพียงรูปทรงและคุณภาพของกระเป๋าล้วนๆ ที่เป็นจุดขาย การโฆษณาก็ไม่ได้มากมายเหมือนกับแบรนอื่นๆ แต่ก็เป็นที่หมายปองของลูกค้าชั้นสูงมากมาย เพราะว่าคุณภาพและความประณีตในการตัดเย็บ ทั้งด้านในด้านนอก และคุณภาพของหนังที่ดีเยี่ยม กระเป๋ารุ่นคาบาต หรือรุ่นตระกล้า เป็นรุ่นที่มีชื่อเสียงมาก ภาพที่เห็นเป็นเพียงกระเป๋าสาน เหมือนกับในบ้านเรา แต่วัสดุที่ใช้เป็นหนัง เช่น หนังจระเข้ กระเป๋าหนึ่งใบอาจจะต้องใช้หนังจระเข้ถึง 17 ตัว ในการสานสี่ชั้น ให้มีความทนทาน ทำให้มีราคาสูงมาก ไมเยอร์ ดีไซน์เนอร์หนุ่มวัย 50 ของแบรน เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่สร้างความสำเร็จให้กับบอนติก้าอย่างมากมาย หลังจากที่เค้าออกมาจากแอร์แมส ก็มาออกแบบเสื้อผ้าและกระเป๋าให้กับบอนติก้า แนวคิดหลักของเค้า คือ ความเรียบง่าย ไม่ต้องสะดุดตา ไม่มีอะไรประดับตกแต่งมากมาย ไม่มีโลโก้ มีแต่งานฝีมือล้วนๆ เป็นผลงานอันทรงคุณค่า ลูกค้าของแบรน จึงเป็นคนที่ต้องพิถีพิถันในเรื่องการเลือกใช้สินค้ามาก รวมทั้งมองเห็นคุณค่าของงานศิลปะ ที่เกิดจากฝีมือล้วนๆ ถึงแม้จะมีคนรู้จักแบรนนี้จำนวนไม่มาก แต่ผมเชื่อว่า ใครก็ตามที่ใช้กระเป๋าบอนติก้า ย่อมเป็นผู้ที่มองเห็นคุณค่าของงานศิลปะอย่างแท้จริง
