
ฟลามิงโกมีกำเนิดจากนิทานพื้นบ้านของสเปนใต้ แล้วพัฒนาเป็นศิลปะที่มีรูปแบบซับซ้อน ทั้งเพลง ดนตรี และการเต้นรำ โดยเมื่อแรกอยู่ในหมู่คนยากไร้ในสังคม ความเป็นมาของระบำฟลามิงโกกล่าวกันหลายแบบ บ้างว่ามาจากชาวตาร์เตสซาน ที่อพยพมาจากแอฟริกา เมื่อ 400-600 ปีก่อนคริสตกาล บ้างก็ว่าพัฒนามาจากระบำยิปซี โดยผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นของสเปนเองโดยเฉพาะในแถบอันดาลูเซีย แต่ประการหลังน่าจะมีความน่าเชื่อถือกว่า ในทศวรรษ 1760 ฟลามิงโก เริ่มเป็นที่รู้จักในแถบกาดิซ เฆเรซ และเซบิญา และในต้นศตวรรษที่ 19 ระบำฟลามิงโกก็เข้าสู่โรงละครและผ่านไปสู่สถาบันการเต้นรำ ปัจจุบัน สามารถชมการแสดงระบำฟลามิงโกได้ตามภัตตาคารที่มีการแสดงนี้ สำหรับการเต้นรำในจังหวะพาโซโดเบล ก็มีการนำการเต้นแบบฟลามิงโก้มาใช้ในการเต้น คือ จังหวะที่มีการกระทืบเท้า เพื่อสร้างจังหวะ การร่ายรำและการเครปกระโปรงครับ
เพลง หรือ Canto เป็นหัวใจของระบำฟลามิงโก Canto ที่ใช้ในระบำฟลามิงโกแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1) Grande หรือ Hondo ( ยิ่งใหญ่ หรือ ลึก ) คือชนิดของเพลงที่เข้มข้น มีเนื้อหาเอาจริงเอาจัง หรือเศร้าสลด นักดนตรีมักจะใส่ความรู้สึกอย่างเต็มที่ (Duende) เข้าไปในบทเพลงชนิดนี้
2) Intermedio ( ปานกลาง ) เป็นบทเพลงที่ไม่มีเนื้อหาเอาจริงเอาจังเท่า “Grande หรือ Hondo” บางครั้งบทเพลงจะมีกลิ่นอายของตะวันออกปนอยู่ด้วย
3) Paqueno ( เล็ก ) คือเพลงระบำฟลามิงโก ที่สนุกสนานแสดงออกถึงความรัก หรือ ความสวยงามของธรรมชาติ
เพลง หรือ Canto เป็นหัวใจของระบำฟลามิงโก Canto ที่ใช้ในระบำฟลามิงโกแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1) Grande หรือ Hondo ( ยิ่งใหญ่ หรือ ลึก ) คือชนิดของเพลงที่เข้มข้น มีเนื้อหาเอาจริงเอาจัง หรือเศร้าสลด นักดนตรีมักจะใส่ความรู้สึกอย่างเต็มที่ (Duende) เข้าไปในบทเพลงชนิดนี้
2) Intermedio ( ปานกลาง ) เป็นบทเพลงที่ไม่มีเนื้อหาเอาจริงเอาจังเท่า “Grande หรือ Hondo” บางครั้งบทเพลงจะมีกลิ่นอายของตะวันออกปนอยู่ด้วย
3) Paqueno ( เล็ก ) คือเพลงระบำฟลามิงโก ที่สนุกสนานแสดงออกถึงความรัก หรือ ความสวยงามของธรรมชาติ