
ตอนนี้เป็นเทศกาลของแฟชั่นโชว์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทยครับ มีการจัดงานแฟชั่นวีคของสองค่ายใหญ่แห่งวงการแฟชั่น ที่จัดแบบตรงกันและชนกันเป็นครั้งแรก คือ ทางฝั่งของ Elle และ Bazaar เป็นปรากฏการณ์ใหม่จริงๆครับ เรียกได้ว่าเป็น Thailand fashion week ของเมืองไทยเลยก็ได้ครับ ที่มีการแบ่งการโชว์เป็นซีซั่นเหมือนของเมืองนอก จัดปีละสองครั้ง ผลกระทบจากการจัดงานซ้อนกันคือ นางแบบและนายแบบต้องเลือกงานที่ตัวเองจะไปเดิน รวมถึงเหล่าเมคอัพอารท์ติส เดรสเซอร์และทีมงาน ที่ต้องเลือกฝั่งและแบรนดังๆว่าจะไปโชว์กับทางฝั่งไหนครับ ตลอดจนผู้รักในแฟชั่น ที่ไม่อยากพลาดทั้งสองงานแต่ต้องเลือกเพราะว่าเวลาชนกัน ตากล้องก็คงต้องแบ่งเป็นสองทีม เป็นการวัดกระแสทางแฟชั่นของสองฝั่งอันมีนัยทางธุรกิจแฝงอยู่ครับ มาเข้าถึงประเด็นที่ว่าคนไปดูแฟชั่นโชว์กันทำไม บางคนอยากไปดูมาก เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้และต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้บัตรมา เข้าคอนเซปที่ว่า "คนซื้อไม่ได้ดู คนดูไม่ได้ซื้อ" ผมพอที่จะสรุปคราวๆได้เป็นข้อๆดังนี้ครับ
1.ไปดูเพราะว่าเป็นงาน ที่ได้รับเชิญมา เช่นเป็นเซเลบหรือคนดัง ที่ช่วยสร้างกระแสของงาน ตลอดจนทำงานในวงการแฟชั่น ที่จำเป็นต้องไปดู
2.อยากไปดูแฟชั่นโชว์สักครั้งนึงในชีวิต ว่าเป็นอย่างไร
3.ชื่นชอบดีไซน์เนอร์มากและเป็นแฟนของห้องเสื้อดัง อยากไปดูของจริงให้เห็นกับตา
4.อยากทำตัวเก๋ๆ แบบเหล่าแฟชั่นนิสต้า ที่แต่งตัวดีๆ ไปนั่งดูแฟชั่นโชว์เพิ่มความมีไสตล์
5.ไปนั่งจับผิดว่าเสื้อชุดนี้ก๊อปมาจากไหน เอาอะไรมาใส่บ้าง และมีเทนนิคการตัดเย็บอย่างไร
6.อยากไปดูโชว์ โปรดักชั่น และรูปแบบงาน เสพบรรยากาศที่เต็มไปด้วยคนรักแฟชั่น นักข่าว
7.อยากหาแรงบันดาลใจ เพราะว่าอยากเป็นดีไซน์เนอร์หรือสไตล์ลิส
8.จะได้ไม่ตกเทรน ไปโม้กับเพื่อนๆได้ว่าไปงานแฟชั่นมา ไม่เอาท์และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ไปนั่งดู
เหล่านี้เป็นเหตุผลคราวๆที่คนอยากไปดูแฟชั่นโชว์กันครับ อาจจะมีเหตุผลส่วนตัวหลายข้อ แต่โดยรวมแล้วไม่พ้น 8 ข้อข้างบนนี้แน่นอนครับ
สำหรับผม การไปดูแฟชั่นโชว์เป็นการไปเปิดหูเปิดตา เห็นบรรยากาศ การทำงานและโชว์มากกว่าเสื้อผ้าครับ เพราะว่าทุกตัวที่โชว์ เราอาจจะได้เห็นแขวนขายในห้างในเร็ววัน รวมถึงรูปในเน็ทอีกมามายและ ตามนิตยสารต่างๆ แต่บรรยากาศของความสดและความรู้สึกจะไม่เหมือนกัน ได้เห็นสไตล์การแต่งตัวของผู้คนที่ไปร่วมงาน อันเป็นสีสันที่แท้จริงของงานมากว่า หลังจากโชว์จบ เราจะได้แรงบันดาลใจและพลังมากมายจริงๆครับ แต่ผมไม่ได้ชื่นชอบการไปดูแฟชั่นโชว์หรือต้องไปให้ได้ ถ้ามีบัตรก็ไป ถ้าไม่มีก็ไม่ไปและไม่ได้ให้ความสำคัญมากมายครับ หลายครั้งก็ไม่อยากจะไปแย่งที่นั่งของคนที่เค้าอยากดูจริงๆ หรือไม่เคยดูมาก่อนให้มีโอกาสได้ดูสักครั้ง ผมเห็นน้องๆมัธยมและนักศึกษา ต่างหาบัตรกันให้วุ่น รวมทั้งเหล่าคนรักแฟชั่น ที่ต่างก็ไม่พลาดงานดีๆแบบนี้ ถ้าไปดูเพื่อให้ได้งานที่สร้างสรรค์และเติมเต็มความต้องการชีวิตก็ดีครับ แต่ถ้าไปเพราะว่าคิดว่าโก้เก๋ ผมว่าอาจจะต้องคิดใหม่ มันไม่ได้เป็นตัววัดที่แท้จริง ตราบใดที่เรายังตกเป็นทาสของมันครับ
1.ไปดูเพราะว่าเป็นงาน ที่ได้รับเชิญมา เช่นเป็นเซเลบหรือคนดัง ที่ช่วยสร้างกระแสของงาน ตลอดจนทำงานในวงการแฟชั่น ที่จำเป็นต้องไปดู
2.อยากไปดูแฟชั่นโชว์สักครั้งนึงในชีวิต ว่าเป็นอย่างไร
3.ชื่นชอบดีไซน์เนอร์มากและเป็นแฟนของห้องเสื้อดัง อยากไปดูของจริงให้เห็นกับตา
4.อยากทำตัวเก๋ๆ แบบเหล่าแฟชั่นนิสต้า ที่แต่งตัวดีๆ ไปนั่งดูแฟชั่นโชว์เพิ่มความมีไสตล์
5.ไปนั่งจับผิดว่าเสื้อชุดนี้ก๊อปมาจากไหน เอาอะไรมาใส่บ้าง และมีเทนนิคการตัดเย็บอย่างไร
6.อยากไปดูโชว์ โปรดักชั่น และรูปแบบงาน เสพบรรยากาศที่เต็มไปด้วยคนรักแฟชั่น นักข่าว
7.อยากหาแรงบันดาลใจ เพราะว่าอยากเป็นดีไซน์เนอร์หรือสไตล์ลิส
8.จะได้ไม่ตกเทรน ไปโม้กับเพื่อนๆได้ว่าไปงานแฟชั่นมา ไม่เอาท์และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ไปนั่งดู
เหล่านี้เป็นเหตุผลคราวๆที่คนอยากไปดูแฟชั่นโชว์กันครับ อาจจะมีเหตุผลส่วนตัวหลายข้อ แต่โดยรวมแล้วไม่พ้น 8 ข้อข้างบนนี้แน่นอนครับ
สำหรับผม การไปดูแฟชั่นโชว์เป็นการไปเปิดหูเปิดตา เห็นบรรยากาศ การทำงานและโชว์มากกว่าเสื้อผ้าครับ เพราะว่าทุกตัวที่โชว์ เราอาจจะได้เห็นแขวนขายในห้างในเร็ววัน รวมถึงรูปในเน็ทอีกมามายและ ตามนิตยสารต่างๆ แต่บรรยากาศของความสดและความรู้สึกจะไม่เหมือนกัน ได้เห็นสไตล์การแต่งตัวของผู้คนที่ไปร่วมงาน อันเป็นสีสันที่แท้จริงของงานมากว่า หลังจากโชว์จบ เราจะได้แรงบันดาลใจและพลังมากมายจริงๆครับ แต่ผมไม่ได้ชื่นชอบการไปดูแฟชั่นโชว์หรือต้องไปให้ได้ ถ้ามีบัตรก็ไป ถ้าไม่มีก็ไม่ไปและไม่ได้ให้ความสำคัญมากมายครับ หลายครั้งก็ไม่อยากจะไปแย่งที่นั่งของคนที่เค้าอยากดูจริงๆ หรือไม่เคยดูมาก่อนให้มีโอกาสได้ดูสักครั้ง ผมเห็นน้องๆมัธยมและนักศึกษา ต่างหาบัตรกันให้วุ่น รวมทั้งเหล่าคนรักแฟชั่น ที่ต่างก็ไม่พลาดงานดีๆแบบนี้ ถ้าไปดูเพื่อให้ได้งานที่สร้างสรรค์และเติมเต็มความต้องการชีวิตก็ดีครับ แต่ถ้าไปเพราะว่าคิดว่าโก้เก๋ ผมว่าอาจจะต้องคิดใหม่ มันไม่ได้เป็นตัววัดที่แท้จริง ตราบใดที่เรายังตกเป็นทาสของมันครับ