
อยากให้วิเคราะห์ดอนนี่เบินกับเกเนอร์
เริ่มที่ดอนนี่เบินและเกย์เนอร์ก่อนนะครับ ทั้งคู่เป็นแชมป์โลกมาหลายสมัยน่าจะประมาณ 10 ครับ เต้นมาตั้งแต่สมัยแรกๆของวงการลาติน ตอนที่วงการลาตินกำลังจะบูมมา เมื่อก่อนการเต้นลาตินจะเต้นคล้ายๆบอลรูมครับ ใส่ชุดซุ่มด้วย ฉะนั้นลองจินตนาการว่าเอานักเต้นบอลรูมมาเต้นลาตินดูก็ได้ครับ ว่ามันจะออกมาแข็งๆเหมือนกับหุ่นยนต์ เพราะว่าร่างกายจะถูกจัดระเบียบให้ตัวตรงและสง่างาม ยังไม่มีการใช้ลำตัวบิดไปมาและการใช้สะโพกมากนักครับ แต่ก็ดูสวยงามแบบชาววังดีครับ ผมเรียกว่าลาตินชาววังละกันนะครับ พอมาถึงสมัยของดอนนี่เบิน ก็เริ่มมีการพัฒนาให้ลาตินมีความเซ็กซี่สมกับชื่อของลาตินมาขึ้น โดยเหล่านักเต้นทั้งหลาย จะมีการประชุมรวมตัวสภาคองเกรสกันทุกๆปี เพื่อพัฒนาการเต้น แนวทาง สรุปท่าเต้นรำและอื่นๆครับ ในสมัยนั้นดอนนี่เบินและเกเนอร์กำลังเป็นช่วงวัยรุ่นครับ ก็คงเหมือนกับสลาวิก ณ ปัจจุบัน มีเรี่ยวแรงที่จะเต้นและทำอะไรแปลกๆใหม่ๆได้ ทั้งคู่เลยรวมมือกับนักเต้นรุ่นเก่าๆพัฒนาท่าเต้นลาตินให้มีความสวยงามและเซ็กซี่ขึ้น ด้วยการใช้สัดส่วยของร่างกายมากขึ้น แต่ยังคงแกนกลางของลำตัวไว้ให้ตรง เริ่มจะสะโพก การใช้ลำตัว การเข้าคู่ และจังหวะเท้าที่นับแบบละเอียดขึ้นกว่าเดิม คิดค้นพัฒนาท่าเต้นใหม่ๆ โดยเอาของเก่ามาทำใหม่ครับ ทั้งคู่เลยถือเป็นคู่ทดลองของวงการ ในการเปลี่ยนแนวการเต้นรำแบบลาตินให้ดูทันสมัยและมีสีสันมากๆขึ้นครับผม เป็นต้นแบบของนักเต้นรำทั่วโลก ณ ปัจจุบัน สมัยนั้นก็มีคนค้านอยู่บ้าง แต่ก็ต้านทานกระแสความแรงและความมันส์ของการเต้นแนวใหม่ไม่ไหวครับ ทั้งคู่ฝึกซ้อมและพัฒนาอย่างหนักมาก ในการคิดค้นเทคนิค สรีระ และจังหวะให้ดูสวยงามขึ้น โดยมีโปรเก่าๆเป็นโค้ชสอนให้ครับ เลยพัฒนาจนกลายเป็นแชมป์โลกระดับตำนานตัวจริง เรียกว่าเหล่านักเต้นดังๆทั้งหลายก็ผ่านการเรียนกับดอนนี่เบินมาแล้วทั้งสิ้น แล้วก็เอาทั้งแฟชั่น ท่าเต้นเพลง สมัยที่ดอนนี่เต้น มารียูทใช้อีกครั้ง เช่น สลาวิก เซอร์เก้และอีกหลายๆคู่ครับ ด้วยความที่เป็นนักพัฒนาการเต้น เลยทำให้ดอนนี่รู้รายละเอียดของแก่นแท้ของการเต้นรำอย่างลึกซึ่งโดยเฉพาะเรื่องโมเมนตัม น้ำหนัก ที่มาที่ไปและสรีระร่างกายของคนที่แตกต่างกัน เลยกลายเป็นโค้ช ที่สอนอะไรยากๆให้เป็นของง่ายได้ด้วยการอธิบายแบบไม่ต้องใช้ศัพท์เทคนิคเหมือนที่เหล่านักเต้นปัจจุบันใช้กันมากมาย เพียงแต่บอกว่าลองทำแบนี้ดู จะสบายขึ้นและเบาขึ้น เปลี่ยนไปตามคาแรกเตอร์ของแต่ละคู่ จนกลายเป็นโค้ชขวัญใจแล้วก็ได้รับเหรียญเป็นเซอร์อะไรสักอย่างนี่ละครับ ได้นั่งแถวหน้าสุดของแบล็คพูล อันเป็นที่นั่งระดับสุดยอด ต้องมีมรดกตกทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ไม่ใช่ว่าใครก็จะมานั่งแถวหน้าๆได้ครับ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาและไอดอลของนักเต้นรำรุ่นต่อมาจนถึงปัจจุบันสไตลย์การเต้นของดอนนี่ เลี่ยนแบบมาจากคาแรกเตอร์ของตัวเอง ที่นั้นความสนุกสนานและมีสีสันครับ มีท่าใหม่ๆที่ยากๆและทันสมัยเกิดขึ้นมากมายเพราว่าเค้าเอามาจากบัลเล่ย์ แจส แทบและอื่นๆ มารวมกันเป็นลีลาศครับผม ดอนนี่เต้นได้ละเอียดและชำนาญทั้ง ช ญ เวลาที่เกย์เนอร์สาธิตการเต้นแล้วไม่ถูกใจ ดอนนี่ก็จะเต้นเป็นผู้หญิงให้ดูซะเองเลยครับ สาวๆเห็นแล้วอายไปเลย หลังจากดอนนี่เบินเลิกเต้น เกเนอร์ก็ไปได้คู่เต้นใหม่ กลายเป็นข่าวดังฮือฮามาก ซึ่งก็มีข่าวที่เกิดขึ้นใหม่ก็เพิ่งเกิดไม่นานเนี่ยละครับ เป็นแนวไหนละไว้ก่อน อิอิ
เริ่มที่ดอนนี่เบินและเกย์เนอร์ก่อนนะครับ ทั้งคู่เป็นแชมป์โลกมาหลายสมัยน่าจะประมาณ 10 ครับ เต้นมาตั้งแต่สมัยแรกๆของวงการลาติน ตอนที่วงการลาตินกำลังจะบูมมา เมื่อก่อนการเต้นลาตินจะเต้นคล้ายๆบอลรูมครับ ใส่ชุดซุ่มด้วย ฉะนั้นลองจินตนาการว่าเอานักเต้นบอลรูมมาเต้นลาตินดูก็ได้ครับ ว่ามันจะออกมาแข็งๆเหมือนกับหุ่นยนต์ เพราะว่าร่างกายจะถูกจัดระเบียบให้ตัวตรงและสง่างาม ยังไม่มีการใช้ลำตัวบิดไปมาและการใช้สะโพกมากนักครับ แต่ก็ดูสวยงามแบบชาววังดีครับ ผมเรียกว่าลาตินชาววังละกันนะครับ พอมาถึงสมัยของดอนนี่เบิน ก็เริ่มมีการพัฒนาให้ลาตินมีความเซ็กซี่สมกับชื่อของลาตินมาขึ้น โดยเหล่านักเต้นทั้งหลาย จะมีการประชุมรวมตัวสภาคองเกรสกันทุกๆปี เพื่อพัฒนาการเต้น แนวทาง สรุปท่าเต้นรำและอื่นๆครับ ในสมัยนั้นดอนนี่เบินและเกเนอร์กำลังเป็นช่วงวัยรุ่นครับ ก็คงเหมือนกับสลาวิก ณ ปัจจุบัน มีเรี่ยวแรงที่จะเต้นและทำอะไรแปลกๆใหม่ๆได้ ทั้งคู่เลยรวมมือกับนักเต้นรุ่นเก่าๆพัฒนาท่าเต้นลาตินให้มีความสวยงามและเซ็กซี่ขึ้น ด้วยการใช้สัดส่วยของร่างกายมากขึ้น แต่ยังคงแกนกลางของลำตัวไว้ให้ตรง เริ่มจะสะโพก การใช้ลำตัว การเข้าคู่ และจังหวะเท้าที่นับแบบละเอียดขึ้นกว่าเดิม คิดค้นพัฒนาท่าเต้นใหม่ๆ โดยเอาของเก่ามาทำใหม่ครับ ทั้งคู่เลยถือเป็นคู่ทดลองของวงการ ในการเปลี่ยนแนวการเต้นรำแบบลาตินให้ดูทันสมัยและมีสีสันมากๆขึ้นครับผม เป็นต้นแบบของนักเต้นรำทั่วโลก ณ ปัจจุบัน สมัยนั้นก็มีคนค้านอยู่บ้าง แต่ก็ต้านทานกระแสความแรงและความมันส์ของการเต้นแนวใหม่ไม่ไหวครับ ทั้งคู่ฝึกซ้อมและพัฒนาอย่างหนักมาก ในการคิดค้นเทคนิค สรีระ และจังหวะให้ดูสวยงามขึ้น โดยมีโปรเก่าๆเป็นโค้ชสอนให้ครับ เลยพัฒนาจนกลายเป็นแชมป์โลกระดับตำนานตัวจริง เรียกว่าเหล่านักเต้นดังๆทั้งหลายก็ผ่านการเรียนกับดอนนี่เบินมาแล้วทั้งสิ้น แล้วก็เอาทั้งแฟชั่น ท่าเต้นเพลง สมัยที่ดอนนี่เต้น มารียูทใช้อีกครั้ง เช่น สลาวิก เซอร์เก้และอีกหลายๆคู่ครับ ด้วยความที่เป็นนักพัฒนาการเต้น เลยทำให้ดอนนี่รู้รายละเอียดของแก่นแท้ของการเต้นรำอย่างลึกซึ่งโดยเฉพาะเรื่องโมเมนตัม น้ำหนัก ที่มาที่ไปและสรีระร่างกายของคนที่แตกต่างกัน เลยกลายเป็นโค้ช ที่สอนอะไรยากๆให้เป็นของง่ายได้ด้วยการอธิบายแบบไม่ต้องใช้ศัพท์เทคนิคเหมือนที่เหล่านักเต้นปัจจุบันใช้กันมากมาย เพียงแต่บอกว่าลองทำแบนี้ดู จะสบายขึ้นและเบาขึ้น เปลี่ยนไปตามคาแรกเตอร์ของแต่ละคู่ จนกลายเป็นโค้ชขวัญใจแล้วก็ได้รับเหรียญเป็นเซอร์อะไรสักอย่างนี่ละครับ ได้นั่งแถวหน้าสุดของแบล็คพูล อันเป็นที่นั่งระดับสุดยอด ต้องมีมรดกตกทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ไม่ใช่ว่าใครก็จะมานั่งแถวหน้าๆได้ครับ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาและไอดอลของนักเต้นรำรุ่นต่อมาจนถึงปัจจุบันสไตลย์การเต้นของดอนนี่ เลี่ยนแบบมาจากคาแรกเตอร์ของตัวเอง ที่นั้นความสนุกสนานและมีสีสันครับ มีท่าใหม่ๆที่ยากๆและทันสมัยเกิดขึ้นมากมายเพราว่าเค้าเอามาจากบัลเล่ย์ แจส แทบและอื่นๆ มารวมกันเป็นลีลาศครับผม ดอนนี่เต้นได้ละเอียดและชำนาญทั้ง ช ญ เวลาที่เกย์เนอร์สาธิตการเต้นแล้วไม่ถูกใจ ดอนนี่ก็จะเต้นเป็นผู้หญิงให้ดูซะเองเลยครับ สาวๆเห็นแล้วอายไปเลย หลังจากดอนนี่เบินเลิกเต้น เกเนอร์ก็ไปได้คู่เต้นใหม่ กลายเป็นข่าวดังฮือฮามาก ซึ่งก็มีข่าวที่เกิดขึ้นใหม่ก็เพิ่งเกิดไม่นานเนี่ยละครับ เป็นแนวไหนละไว้ก่อน อิอิ